รูปแบบของกิจการค้าแต่ละประเภทจะแตกต่างกันออกไปตามสภาพการลงทุนในกิจการ ลักษณะการจัดตั้ง การดำเนินงาน และความสำคัญทางเศรษฐกิจ สามารถแบ่งได้ดังนี้
1. กิจการเจ้าของคนเดียว (Single Proprietorship) ได้แก่ กิจการขนาดเล็กที่มีบุคคลคนเดียวเป็นเจ้าของ เช่น ร้านค้าย่อย การจัดตั้งทำได้ง่าย แต่การขยายกิจการทำได้ยากเพราะมีเงินทุนจำกัด
2. ห้างหุ้นส่วน (Partnership) คือ กิจการทีมีบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปร่วมกันเป็นเจ้าของโดยมีสัญญาตกลงรวมทุนกันเป็นหุ้นส่วนประกอบการค้าเพื่อหวังกำไร โดยผู้เป็นหุ้นส่วนจะมีทุนเท่ากันหรือไม่เท่ากันก็ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ห้างหุ้นส่วนแบ่งได้เป็น 2 ประเภท
2.1 ห้างหุ้นส่วนสามัญ (Ordinary Partnership) คือ ห้างหุ้นส่วนประเภทที่ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกันในหนี้สินโดยไม่จำกัดจำนวน ห้างหุ้นส่วนประเภทนี้จะจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลก็ได้หรือไม่จดทะเบียนก็ได้
2.2 ห้างหุ้นส่วนจำกัด (Limited Partnership) คือ ห้างหุ้นส่วนที่ประกอบด้วยผู้เป็นหุ้นส่วน 2 จำพวก คือจำพวกจำกัดความรับผิดชอบ และไม่จำกัดความรับผิดชอบ และ กฎหมายบังคับให้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล
3. บริษัทจำกัด (Company Limited or Corporation) คือ กิจการที่ตั้งขึ้นในรูปของนิติบุคคลด้วยการแบ่งทุนเป็นหุ้นมีมูลค่าเท่าๆ กัน ผู้ที่ลงทุนซื้อหุ้นของกิจการเรียกว่า “ผู้ถือหุ้น” ผู้ถือหุ้นจะได้รับส่วนแบ่งกำไรเป็นเงินปันผล (Dividends) บริษัทจำกัดแบ่งเป็น 2 ประเภท
3.1 บริษัทเอกชน จำกัด (Private Company Limited) มีจำนวนผู้ถือหุ้นตั้งแต่เจ็ดคนขึ้นไป (ป.พ.พ. มาตรา 1097)
3.2 บริษัทมหาชน จำกัด (Public Company Limited) มีจำนวนผู้ถือหุ้นตั้งแต่สิบห้าคนขึ้นไป (พ.ร.บ. บริษัทมหาชน จำกัด พ.ศ. 2535 มาตรา 16)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น